วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2551

๔ วิธีสร้างสมาธิแบบไม่น่าเชื่อ

๑. ท่องบทกลอน หาท่องกลอนเด็ดมาจำเล่น ไม่ต้องถึงขนาดนั่งท่องกลอนทั้งหมด แค่ประโยค ๒ ประโยค ท่องซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ทำให้คุณเกิดภาวะสมาธิขึ้น โดยเฉพาะประโยคฮิตของท่านสุนทรภู่ที่เคยประพันธ์เอาไว้ว่า “แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหนือกำหนด เหมือนเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็มีคดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน” จากเรื่องพระอภัยมณี


๒. กินอาหารช้าๆ คุณชอบกินอาหารจานด่วนหรือเปล่า? ไม่ใช่อาหารเยอะนะ แต่เพราะคุณกินเร็วมากจนคนอื่นตามไม่ทันหรือชอบกินไปดูทีวีไป ทุกๆ คำที่กินเข้าไปคุณนึกถึงสุขภาพมากแค่ไหน พอทำแบบนี้ทุกวัน มื้ออาหารธรรมดาก็อาจเปลี่ยนเป็นช่วงเวลาแห่งความสงบภายในใจก็ได้
๓. ฟังเพลงชิลๆ คัดเพลงที่ชอบฟังที่สุดมาไว้ในเครื่องเล่น ในคอมพิวเตอร์ก็ได้ หรือ เครื่องเล่น MP๓ ฟังเมื่อไหร่ก็ใส่หูฟังได้เลย หยุดเม้าท์ซะบ้างจะได้มีสมาธิมากขึ้น

๔. เขียนลิสท์ความสุขทางใจเคยแต่เขียนรายการที่ต้องทำส่งแต่ในงานล่ะซิ ลองหาเวลาเขียนรายการในสิ่งที่คุณรู้สึกดีมากขึ้น อย่าง ๑๐ เหตุการณ์ประทับใจตอนเด็กที่คุณลืมไม่ได้แล้วคุณจะพบว่าสมาธิช่วยให้ชีวิตคุณดีขึ้นทันที


+++แหล่งอ้างอิง : http://campus.sanook.com/teen_zone/senior_04704.php +++

วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2551

~~~ ดื่มน้ำมากเกินไประวังน้ำเป็นพิษ~~~

ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ยอมรับว่าดื่มน้ำมากกว่าปกติเล็กน้อยช่วยให้มีสุขภาพดี แต่ระยะหลังกระแสนิยมใช้น้ำล้างพิษเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะสูตรที่แนะให้ดื่มน้ำหลายลิตรต่อวัน และดื่มต่อเนื่องแม้จะไม่มีอาการกระหายน้ำ โดยอ้างว่าดื่มน้ำมากช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ชะล้างสารเคมี หรือสิ่งที่เป็นพิษออกจากร่างกาย
อย่างไรก็ตาม สมาคมโภชนาการแห่งอังกฤษแจงว่า ปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการแต่ละวันขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน รวมถึงปัจจัยอื่นไม่ว่าจะเป็นสภาพภูมิอากาศ การออกกำลังกาย เป็นต้น
เออร์ซูลา อาเรนส์ นักโภชนาการระบุว่า ร่างกายต้องการน้ำ 1-2 ลิตรต่อวัน น้ำที่จะได้รับอาจไม่ได้อยู่ในรูปของน้ำเปล่า แต่รวมถึงชา กาแฟ น้ำผลไม้ อาหารต่างๆ ที่มีน้ำผสมอยู่ไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ ขนม
"อย่าดื่มน้ำมากเกินกว่าร่างกายต้องการ เพราะหากคุณเป็นนักกีฬาชื่อดัง ทำรายได้เป็นแสนต่อการแข่งกีฬา 1 เกม ก็พอเข้าใจได้ว่าร่างกายต้องการน้ำมากพอกับที่สูญเสียไป แต่หากคุณเป็นแค่คนที่ว่ายน้ำเป็นงานอดิเรก มันไม่จำเป็นเลยกับน้ำมากมาย" นักโภชนาการเมืองผู้ดีกล่าว
เออร์ซูลา ยังกล่าวด้วยว่า ในทางวิทยาศาสตร์ยังไม่มีหลักฐานยืนยันประโยชน์ของการล้างพิษด้วยน้ำ เนื่องจากร่างกายมีกระบวนการกำจัดของเสียที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้วคือตับ จึงเป็นเรื่องรู้ได้ยากว่าการดื่มน้ำมากเกินไปส่งผลต่อกระบวนการขับของเสียของร่างกายหรือไม่ และอย่างไร
"ร่างกายมนุษย์มีระบบกำจัดของเสียที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้ว แต่กรณีที่ระดับน้ำในเลือดเพิ่มสูงมากเกินไป ระบบกำจัดของเสียไม่สามารถรับมือได้ ทั้งนี้หากดื่มน้ำในปริมาณมาก เกลือในเลือดก็จะลดต่ำ ส่งผลให้น้ำท่วมเข้าสู่สารละลายในเซลล์และอวัยวะอื่นๆ ได้ เช่น ทำให้สมองบวมจนไม่สามารถทำงานได้"
ศ.เกรแฮม แมคเกรเกอร์ ผู้เชี่ยวชาญระบบไต อธิบายและเล่าว่า เคยมีคนดื่มเบียร์ 10 ลิตร แล้วต้องเข้าโรงพยาบาลจากภาวะ "น้ำเป็นพิษ" ศ.เกรแฮมย้ำว่า คนควรดื่มน้ำตามที่ร่างกายต้องการ ร่างกายจะบอกให้ทราบด้วยอาการกระหาย การดื่มน้ำปริมาณมากกว่านั้น ไม่จำเป็นนอกจากเป็นสาเหตุให้คุณต้องไปต่อคิวหน้าห้องสุขา เช่นเดียวกับการดีท็อกซ์ด้วยน้ำ


#####แหล่งอ้างอิง :http://campus.sanook.com/teen_zone/senior_04485.php #######

วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551

@@@@เกร็ดความรู้ ภาษารักทั้ง 9 แบบ@@@@

ความสัมพันธ์ของมนุษย์ต้องสื่อสารออกจากภาษากายทั้ง 9 แบบนี้ คือ

1. ภาษาใจ ซึ่งเป็นความจำเป็นพื้นฐานของคนสองคน ที่จะเป็นคู่ชีวิตใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน
2. ภาษาสายตา เป็นภาษาที่ลึกซึ้งและเที่ยงตรงที่สุดเพราะหลอกกันไม่ได้
3. ภาษายิ้ม ยิ้มเป็นสิ่งที่บ่งบอกและแสดงความเป็นไปของผู้ยิ้ม ดังนั้นเราจึงควรฝึกยิ้มให้มีเสน่ห์ และมีความสุข
4. ภาษาวาจา ภาษาวาจามีอานุภาพมาก มีทั้งประโยชน์และโทษถ้าไม่ระมัดระวังคำพูด
5. ภาษาท่าทาง ท่าทางอันจรรโลงรักให้ภาคภูมิ งดงาม และยังความมั่นใจในสัมพันธภาพ
6. ภาษาสัมผัส การสัมผัสควรพิถีพิถันบรรจง อ่อนโยน ทะนุถนอม นุ่มนวลและหนักแน่นเป็นการเกื้อกูลกันให้เกิดพลังมาก สมานสัมพันธ์ให้แนบแน่นยิ่งขึ้น
7. ภาษาพฤติกรรม ภาษาพฤติกรรมเป็นภาษารักแห่งยั่งยืน
8. ภาษาสัมพันธ์ คือการจัดสมดุลให้แก่ชีวิตคู่
9. ภาษาแห่งความสงบ ภาษาแห่งความสงบเป็นภาษาที่ทรงอานุภาพสูงสุด เมื่อใดที่เข้าถึงความสงบได้ ความสุขจึงปรากฎ
ดังนั้นการสื่อภาษารักใดๆนั้นจะทรงพลัง มีค่าความเที่ยงตรง ความละเอียดอ่อน และความลึกซึ้ง ขึ้นอยู่กับพลังชีวิตและระดับจิตใจของแต่ละคน
******แหล่งที่มา http://www.sakid.com/2008/08/11/8366/******

วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2551

สิ่งที่ได้จากการเรียนเตรียมฝึก

####สิ่งที่ได้จากการเรียนเตรียมฝึก####
จากการที่ได้เข้าเรียนในรายวิชานี้ทำให้รู้จักการเข้าเรียนตรงต่อเวลา และทำให้มีวินัยในการดำรงชีวิต
รู้จักการใช้เงินให้มีระบบ และใช้จ่ายเงินให้ถูกวิธี รู้จักการเก็บออม มีการสอนให้รู้จักการพัฒนาบุคลิกภาพ และการเข้าสังคมกับคนหมู่มาก